จัดตู้ปลาตามฮวงจุ้ย
จัดตู้ปลาตามฮวงจุ้ยเสริมดวงให้ร่ำรวย ตามความเชื่อของชาวจีนหมายถึง ศาสตร์ของการจัดที่อยู่อาศัย ที่อาศัยความสัมพันธ์ของธาตุทั้งสี่ นั่นคือ ดิน น้ำ ลม ไฟ เชื่อกันว่าหากจัดบ้านให้ถูกต้องตามโฉลกแล้ว จะช่วยเสริมส่งให้เจ้าของบ้านเจริญรุ่งเรือง มีเงินทองไหลมาเทมา ปราศจากพลังร้ายทั้งปวง นอกจากการจัดวางสิ่งของทั่วไปภายในบ้านแล้ว สิ่งหนึ่งที่บ้าน และบริษัทต่าง ๆ นิยมใช้เพื่อตกแต่ง และผ่อนคลายสายตา ก็คือ ตู้ปลาหรือบ่อเลี้ยงปลานั่นเอง การจัดตู้ปลาให้ถูกหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่าจะช่วยดึงดูดเงินเข้าบ้าน ให้ผู้อยู่อาศัยเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยยิ่งๆ ขึ้นไป
สาเหตุเรื่องความเชื่อในการเลี้ยงปลา หรือ วางตู้ปลาในบ้านนั้น จริงๆคงมาจากความเชื่อทางด้านโชคลาภการเงิน เพราะในศาสตร์ฮวงจุ้ย “น้ำ” มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินทองเสมอ หรือแม้แต่การสลายพลังที่ไม่ดีก็มักจะใช้การเคลื่อนไหวของน้ำมาเป็นตัวปิดกั้นและสลายมันทิ้งไป ซึ่งชาวจีนหรือคนส่วนใหญ่นิยมส่วนมากมักแนะนำให้เจ้าของบ้านวางตู้ปลา อ่างน้ำตก อ่างน้ำวน ต่างๆ ตามตำแหน่งที่คิดว่าเป็นโชคลาภ เพื่อกระตุ้นการเงินให้ไหลเข้ามามากขึ้น ซึ่งหลักการกว้างๆและข้อควรรู้ในการตั้งตู้ปลาตามฮวงจุ้ยมีดังนี้
1. รูปร่างของตู้ปลา
ลักษณะของตู้ปลาที่ดี ควรเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมยาว เป็นธาตุไม้ เชื่อว่าจะส่งเสริมให้เจ้าของบ้านเจริญก้าวหน้า เพราะน้ำจะช่วยให้ไม้เติบโต หรือว่าจะเลือกเป็นทรงกลมก็เป็นมงคลเช่นกัน เพราะทรงกลมจัดว่าเป็นธาตุน้ำ จะช่วยเสริมส่งพลังน้ำด้วยกันให้ดียิ่งขึ้น, ถ้าเป็นบ่อปลา หรือสระน้ำ ต้องมีลักษณะโค้งมน ไม่มีเหลี่ยม หรือมุมแหลม ซึ่งมีลักษณะที่เป็นภัยกับเจ้าของบ้านหรือจะเน้นสีของตู้ก็ได้
ส่วนในเรื่องของลักษณะของตู้ปลานั้นมีหลายรูปทรงซึ่งแต่ละรูปทรงนั้นก็ยังมีความที่เกี่ยวข้องกับหลักของ 5 ธาตุ ดังนี้
1) ตู้ปลาลักษณะ “กลม” ในหลักของ 5 ธาตุนั้น สังเกตธาตุทอง ทองช่วยส่งเสริมพลังของน้ำจึงถือว่าเป็นมงคล แต่ในปัจจุบันมักไม่ค่อยเห็นเท่าไร จะเห็นเพียงโหลแก้วมากกว่า ถ้าเป็นสมัยโบราณ มักจะขุดบ่อน้ำเป็นบ่อทรงกลมแทน อย่างเช่นพวกบ่อน้ำกินน้ำใช้ (บ่อน้ำบาดาล)
ลักษณะของตู้ปลาที่ดี ควรเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมยาว เป็นธาตุไม้ เชื่อว่าจะส่งเสริมให้เจ้าของบ้านเจริญก้าวหน้า เพราะน้ำจะช่วยให้ไม้เติบโต หรือว่าจะเลือกเป็นทรงกลมก็เป็นมงคลเช่นกัน เพราะทรงกลมจัดว่าเป็นธาตุน้ำ จะช่วยเสริมส่งพลังน้ำด้วยกันให้ดียิ่งขึ้น, ถ้าเป็นบ่อปลา หรือสระน้ำ ต้องมีลักษณะโค้งมน ไม่มีเหลี่ยม หรือมุมแหลม ซึ่งมีลักษณะที่เป็นภัยกับเจ้าของบ้านหรือจะเน้นสีของตู้ก็ได้
ส่วนในเรื่องของลักษณะของตู้ปลานั้นมีหลายรูปทรงซึ่งแต่ละรูปทรงนั้นก็ยังมีความที่เกี่ยวข้องกับหลักของ 5 ธาตุ ดังนี้
1) ตู้ปลาลักษณะ “กลม” ในหลักของ 5 ธาตุนั้น สังเกตธาตุทอง ทองช่วยส่งเสริมพลังของน้ำจึงถือว่าเป็นมงคล แต่ในปัจจุบันมักไม่ค่อยเห็นเท่าไร จะเห็นเพียงโหลแก้วมากกว่า ถ้าเป็นสมัยโบราณ มักจะขุดบ่อน้ำเป็นบ่อทรงกลมแทน อย่างเช่นพวกบ่อน้ำกินน้ำใช้ (บ่อน้ำบาดาล)
2) ตู้ปลาลักษณะ “หกเหลี่ยมและแปดเหลี่ยม” ในหลักของ 5 ธาตุนั้น เป็นลักษณะของธาตุดินไม่ส่งเสริมน้ำ พลังข่มซึ่งกันและกันจึงไม่ควรใช้ตู้ปลาลักษณะนี้
3) ตู้ปลาลักษณะ “สี่เหลี่ยมลูกบาศก์” ในหลักของ 5 ธาตุ เป็นธาตุดิน ดินข่มน้ำ ทำให้เกิดพลังข่มซึ่งกันและกัน จึงไม่ควรใช้ตู้ปลาลักษณะนี้เช่นกัน
4) ตู้ปลาลักษณะ “สามเหลี่ยม” ในหลักของ 5 ธาตุ เป็นธาตุไฟ เมื่อน้ำเจอกับไฟ ตีกันยุ่งเหยิง จึงไม่ควรเลือกใช้
5) ตู้ปลาลักษณะ “สี่เหลี่ยมยาวหรือผืนผ้า” ในหลักของ 5 ธาตุเป็นธาตุไม้ ตู้ลักษณะนี้จึงเป็นมงคลเพราะน้ำให้กำเนิดไม้ ถึงน้ำจะอ่อนพลังลงไปแต่ก็ช่วยให้ไม้เจริญขึ้นได้ ดูอย่างกระแสนิยมของคนทั่วไปมักเลือกตู้ลักษณะนี้ ยอดขายของร้านขายตู้ปลา ก็ขายตู้ลักษณะนี้ดีกว่าตู้ลักษณะอื่นๆ จนเป็นลักษณะยอดฮิตไปแล้วขณะนี้
เมื่อเราวิเคราะห์ตามลักษณะของ 5 ธาตุแล้ว จะเห็นว่าลักษณะของตู้ปลาที่เป็นมงคลมากที่สุดจะมี 2 ลักษณะคือ รูปทรงกลมและรูปสี่เหลี่ยมยาว (ผืนผ้า) หากท่านที่จะคิดซื้อตู้ปลาก็ต้องตัดสินใจเลือกลักษณะของตู้ปลาให้ดี
นอกจากลักษณะของตู้แล้ว ความยาว กว้าง และความสูงยังต้องคำนึงถึงด้วย โดยในแต่ละขนาด แต่ละนิ้วและเซ็นต์นั้นยังมีความหมายที่มงคลและไม่มงคลอยู่ด้วย เช่น ในสมัยโบราณ ขนาดของประตู หน้าต่าง โต๊ะ ฯลฯ ยังต้องดูกันให้ละเอียดโดยใช้หลักของ “ไม้บรรทัดหลูปัง” มาวัดให้ตรงกับขนาดที่เป็นมงคลอีกด้วย ซึ่งหลูปังเป็นบุคคลที่มีชีวิตอยู่ในสมัยโบราณหลายพันปีมาแล้วก่อนยุคจิ๋นซีฮ่องเต้ เป็นผู้ที่มีความสามารถอยู่ท่านหนึ่ง เป็นเจ้าเฟอร์นิเจอร์ไม้ทุกชนิด ได้ใช้เคล็ดลับการทำเตียงนอน โต๊ะเฟอร์นิเจอร์ที่ทำด้วยไม้ รวมทั้งประตูที่ใช้เข้าออกอยู่ทุกวันนี้ โดยการใช้ตลับเมตรที่เราเห็นช่างก่อสร้างใช้อยู่ปัจจุบัน บางคนก็เหน็บไว้ที่เข็มขัด แต่จะมีไม่กี่คนที่รู้ความลับนี้ ในส่วนของตู้ปลานั้นเมื่อเราใช้ไม้บรรทัดหลูปังวัดแล้วขนาด “60 นิ้ว” เป็นขนาดที่เป็นมงคลสุดแล้ว (ยังไม่วัดความกว้างและสูง) จึงเป็นวิธีง่ายๆที่ทุกคนจะนำไปใช้ซื้อตู้ปลาได้
เมื่อเราวิเคราะห์ตามลักษณะของ 5 ธาตุแล้ว จะเห็นว่าลักษณะของตู้ปลาที่เป็นมงคลมากที่สุดจะมี 2 ลักษณะคือ รูปทรงกลมและรูปสี่เหลี่ยมยาว (ผืนผ้า) หากท่านที่จะคิดซื้อตู้ปลาก็ต้องตัดสินใจเลือกลักษณะของตู้ปลาให้ดี
นอกจากลักษณะของตู้แล้ว ความยาว กว้าง และความสูงยังต้องคำนึงถึงด้วย โดยในแต่ละขนาด แต่ละนิ้วและเซ็นต์นั้นยังมีความหมายที่มงคลและไม่มงคลอยู่ด้วย เช่น ในสมัยโบราณ ขนาดของประตู หน้าต่าง โต๊ะ ฯลฯ ยังต้องดูกันให้ละเอียดโดยใช้หลักของ “ไม้บรรทัดหลูปัง” มาวัดให้ตรงกับขนาดที่เป็นมงคลอีกด้วย ซึ่งหลูปังเป็นบุคคลที่มีชีวิตอยู่ในสมัยโบราณหลายพันปีมาแล้วก่อนยุคจิ๋นซีฮ่องเต้ เป็นผู้ที่มีความสามารถอยู่ท่านหนึ่ง เป็นเจ้าเฟอร์นิเจอร์ไม้ทุกชนิด ได้ใช้เคล็ดลับการทำเตียงนอน โต๊ะเฟอร์นิเจอร์ที่ทำด้วยไม้ รวมทั้งประตูที่ใช้เข้าออกอยู่ทุกวันนี้ โดยการใช้ตลับเมตรที่เราเห็นช่างก่อสร้างใช้อยู่ปัจจุบัน บางคนก็เหน็บไว้ที่เข็มขัด แต่จะมีไม่กี่คนที่รู้ความลับนี้ ในส่วนของตู้ปลานั้นเมื่อเราใช้ไม้บรรทัดหลูปังวัดแล้วขนาด “60 นิ้ว” เป็นขนาดที่เป็นมงคลสุดแล้ว (ยังไม่วัดความกว้างและสูง) จึงเป็นวิธีง่ายๆที่ทุกคนจะนำไปใช้ซื้อตู้ปลาได้
2. การจัดวาง
ตำแหน่งของตู้ปลา บ่อปลา หรือสระน้ำ ก็มีความสำคัญมากเช่นเดียวกัน เพราะอย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่า “น้ำ” ในวิชาฮวงจุ้ยสามารถกระตุ้นพลังโชคลาภได้ ขณะเดียวกันก็สามารถทำให้การเงินเสียหายได้หากเราวางผิดตำแหน่ง ดังนั้นเราควรจัดวางให้ตู้ปลา อยู่ในทิศที่ถูกกับธาตุน้ำเป็นหลัก (ทิศเหนือ) ซึ่งก็ต้องจะสัมพันธ์กับปีเกิด, อายุ, เพศ, ธาตุ, ราศี ของเจ้าบ้าน และทิศทางของบ้านประกอบไปด้วย เช่น
หน้าบ้านหันทิศ ตำแหน่งวางตู้ปลา
เหนือ ใต้ หรือ เหนือ
ตะวันออก/เหนือ(30 บวกลบ 5องศา) ตะวันออก/เหนือ หรือตะวันตก
ตะวันออก/เหนือ(45หรือ60 บวกลบ 5องศา) ตะวันออก หรือตะวันตก/ใต้
ตะวันออก(75 บวกลบ 5องศา) ตะวันออก หรือตะวันตก/ใต้
ตะวันออก(90หรือ105 บวกลบ 5องศา) ตะวันออก/เหนือ หรือตะวันตก
ตะวันออก/ใต้(120 บวกลบ 5องศา) ตะวันตก/เหนือ หรือตะวันตก
ตะวันออก/ใต้(135หรือ150 บวกลบ 5องศา) ตะวันออก หรือตะวันออก/ใต้
ใต้(165 บวกลบ 5องศา) เหนือ หรือ ตะวันตก/ใต้
ใต้(180หรือ195 บวกลบ 5องศา) ตะวันออก/เหนือ หรือใต้
ตะวันตก/ใต้(210 บวกลบ 5องศา) เหนือ หรือตะวันตก/ใต้
ตะวันตก/ใต้(225หรือ240 บวกลบ 5องศา) ใต้ หรือตะวันออก/เหนือ
ตะวันตก(255 บวกลบ 5องศา) ตะวันออก หรือตะวันออก/ใต้
ตำแหน่งของตู้ปลา บ่อปลา หรือสระน้ำ ก็มีความสำคัญมากเช่นเดียวกัน เพราะอย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่า “น้ำ” ในวิชาฮวงจุ้ยสามารถกระตุ้นพลังโชคลาภได้ ขณะเดียวกันก็สามารถทำให้การเงินเสียหายได้หากเราวางผิดตำแหน่ง ดังนั้นเราควรจัดวางให้ตู้ปลา อยู่ในทิศที่ถูกกับธาตุน้ำเป็นหลัก (ทิศเหนือ) ซึ่งก็ต้องจะสัมพันธ์กับปีเกิด, อายุ, เพศ, ธาตุ, ราศี ของเจ้าบ้าน และทิศทางของบ้านประกอบไปด้วย เช่น
หน้าบ้านหันทิศ ตำแหน่งวางตู้ปลา
เหนือ ใต้ หรือ เหนือ
ตะวันออก/เหนือ(30 บวกลบ 5องศา) ตะวันออก/เหนือ หรือตะวันตก
ตะวันออก/เหนือ(45หรือ60 บวกลบ 5องศา) ตะวันออก หรือตะวันตก/ใต้
ตะวันออก(75 บวกลบ 5องศา) ตะวันออก หรือตะวันตก/ใต้
ตะวันออก(90หรือ105 บวกลบ 5องศา) ตะวันออก/เหนือ หรือตะวันตก
ตะวันออก/ใต้(120 บวกลบ 5องศา) ตะวันตก/เหนือ หรือตะวันตก
ตะวันออก/ใต้(135หรือ150 บวกลบ 5องศา) ตะวันออก หรือตะวันออก/ใต้
ใต้(165 บวกลบ 5องศา) เหนือ หรือ ตะวันตก/ใต้
ใต้(180หรือ195 บวกลบ 5องศา) ตะวันออก/เหนือ หรือใต้
ตะวันตก/ใต้(210 บวกลบ 5องศา) เหนือ หรือตะวันตก/ใต้
ตะวันตก/ใต้(225หรือ240 บวกลบ 5องศา) ใต้ หรือตะวันออก/เหนือ
ตะวันตก(255 บวกลบ 5องศา) ตะวันออก หรือตะวันออก/ใต้
หน้าบ้านหันทิศ ตำแหน่งวางตู้ปลา
ตะวันตก(270หรือ285 บวกลบ 5องศา) ตะวันตก/เหนือ หรือตะวันตก
ตะวันตก/เหนือ(300 บวกลบ 5องศา) ตรงกลาง หรือตะวันออก/ใต้
ตะวันตก/เหนือ(315หรือ330 บวกลบ 5องศา) ตรงกลาง หรือตะวันตก/เหนือ
ตะวันตก(270หรือ285 บวกลบ 5องศา) ตะวันตก/เหนือ หรือตะวันตก
ตะวันตก/เหนือ(300 บวกลบ 5องศา) ตรงกลาง หรือตะวันออก/ใต้
ตะวันตก/เหนือ(315หรือ330 บวกลบ 5องศา) ตรงกลาง หรือตะวันตก/เหนือ
การจัดวางตู้ปลาตามปีเกิด
ปีเกิด วางในตำแหน่งทิศ
ชวด ทิศตะวันตก
ฉลู ทิศใต้
ขาล ทิศตะวันออก
เถาะ ทิศเหนือ
มะโรง ทิศตะวันตก
มะเส็ง ทิศใต้
มะเมีย ทิศตะวันออก
มะแม ทิศเหนือ
วอก ทิศตะวันตก
ระกา ทิศใต้
จอ ทิศตะวันออก
กุน ทิศเหนือ
ชวด ทิศตะวันตก
ฉลู ทิศใต้
ขาล ทิศตะวันออก
เถาะ ทิศเหนือ
มะโรง ทิศตะวันตก
มะเส็ง ทิศใต้
มะเมีย ทิศตะวันออก
มะแม ทิศเหนือ
วอก ทิศตะวันตก
ระกา ทิศใต้
จอ ทิศตะวันออก
กุน ทิศเหนือ
นอกจากนี้ ถ้าเป็นทิศที่มีประตูใหญ่อยู่ด้วย จะถือว่าเป็นมงคลมาก เพราะประตูใหญ่นั้นเป็นจุดที่กระตุ้นการไหลเวียนของโชคลาภ ให้เงินทองไหลมาไม่ขาดสาย หรือถ้าที่อยู่อาศัย หรือที่ทำงานตั้งอยู่ตรงทางสามแพร่งพอดี สามารถแก้ได้ด้วยการนำน้ำพุมาตั้งไว้บริเวณนั้น เพื่อลดความชั่วร้ายต่าง ๆ ที่จะเข้ามาให้กระจายเป็นพลังที่ดี ในน้ำพุสามารถใส่ปลาหางนกยูงได้ถึงชื่อปลาจะฟังไม่เพราะแต่ก็มีความหมายนะ เพราะปลาหางนกยูงลูกดกแผ่พันธ์เร็วจึงถือว่าน่าจะมีความหมายถึงธุรกิจงอกงามเจริญเร็ว
3. ลักษณะที่ดีของตู้ปลา
ตู้ปลา หรือบ่อเลี้ยงปลา ควรมีการไหลเวียนของน้ำ ให้น้ำเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตามหลักฮวงจุ้ย หมายถึง ลักษณะของเงินที่หมุนเวียนเข้ามาเรื่อยๆ และ น้ำที่ใช้เลี้ยงปลา ควรจะใส สะอาด มองเห็นตัวปลา มองแล้วรู้สึกผ่อนคลาย และสบายใจต้องหมั่นดูแลความสะอาด แม้แต่หินประดับหรือต้นไม้ในตู้ก็ควรจะดูแลปล่อยให้ปลาตายหรือหินเป็นตะใคร่ ต้นไม้ประดับเน่าควรจะจัดมาเสริมใหม่ทันที่
ตู้ปลา หรือบ่อเลี้ยงปลา ควรมีการไหลเวียนของน้ำ ให้น้ำเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตามหลักฮวงจุ้ย หมายถึง ลักษณะของเงินที่หมุนเวียนเข้ามาเรื่อยๆ และ น้ำที่ใช้เลี้ยงปลา ควรจะใส สะอาด มองเห็นตัวปลา มองแล้วรู้สึกผ่อนคลาย และสบายใจต้องหมั่นดูแลความสะอาด แม้แต่หินประดับหรือต้นไม้ในตู้ก็ควรจะดูแลปล่อยให้ปลาตายหรือหินเป็นตะใคร่ ต้นไม้ประดับเน่าควรจะจัดมาเสริมใหม่ทันที่
4. เลี้ยงปลาอะไรดี
โดยหลักๆแล้ว ปลาเสริมดวงที่นิยมกันนั้นมีอยู่ 4 ชนิด
- ปลาทอง (จิน หยู) เลี้ยงเพื่อให้เงินทองไหลมาเทมา คนจีนชอบปลาทองมาก และมักจะเลี้ยงเอาไว้ในอ่างในบ้าน หรือในสระที่สวนของวัด คำว่าปลาทองในภาษาจีนมีเสียงพร้องกับคำที่หมายถึง “มีทองล้นหลาม” ปลาทองจึงมักจะเป็นของขวัญสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่นิยมมอบให้กันในวันมงคลต่างๆ หรือไม่ก็จะมอบเป็นภาพวาดของปลาทอง โดยคนจีนมักจะวาดภาพปลาทองและดอกบัวไว้ด้วยกัน ซึ่งหมายถึงทองคำและหยกอยู่ด้วยกัน ส่วนภาพปลาทองคู่เป็นสัญลักษณ์ของความเติบโต และปลาทองอาจใช้เป็นตัวแทนของคนรักได้ด้วย
วิธีที่ดีที่สุดจริงๆในการกระตุ้นโชคของฮวงจุ้ยภายในบ้าน คือการเลี้ยงปลาทองไว้ในตู้เลี้ยงปลา ให้เลี้ยงปลาทอง 9 ตัว โดย 8 ตัวเป็นปลาสีแดงหรือสีทอง และอีกหนึ่งตัวเป็นสีดำ ถ้าปลาทองของท่านเกิดตายขึ้นมาก็ไม่ต้องกลัดกลุ้ม ให้หาปลาทองตัวใหม่ใส่เพิ่มเข้าไปในตู้เลี้ยงปลา เมื่อมีการตายของปลาเกิดขึ้นเชื่อกันว่าปลาตัวนั้นได้ซึมซับเอาโชคร้ายไปแทนผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านนั้น อย่างไรก็ตาม ห้ามนำปลาทองไปเลี้ยงไว้ในห้องนอน ในห้องน้ำหรือในครัว ซึ่งจะอันตรายเป็นพิเศษโดยเฉพาะในห้องนอน เพราะจะเป็นต้นเหตุให้ท่านได้รับความเดือดร้อน มีการสูญเสียเกิดขึ้นกับทรัพย์สิน อาจจบลงด้วยการถูกขโมยข้าวของหรือมีการโจรกรรมเกิดขึ้นในบ้านของท่าน ควรเลี้ยงปลาทองไว้ในห้องนั่งเล่นหรือบริเวณนอกบ้านตรงตำแหน่งด้านหน้าของบ้าน
วิธีที่ดีที่สุดจริงๆในการกระตุ้นโชคของฮวงจุ้ยภายในบ้าน คือการเลี้ยงปลาทองไว้ในตู้เลี้ยงปลา ให้เลี้ยงปลาทอง 9 ตัว โดย 8 ตัวเป็นปลาสีแดงหรือสีทอง และอีกหนึ่งตัวเป็นสีดำ ถ้าปลาทองของท่านเกิดตายขึ้นมาก็ไม่ต้องกลัดกลุ้ม ให้หาปลาทองตัวใหม่ใส่เพิ่มเข้าไปในตู้เลี้ยงปลา เมื่อมีการตายของปลาเกิดขึ้นเชื่อกันว่าปลาตัวนั้นได้ซึมซับเอาโชคร้ายไปแทนผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านนั้น อย่างไรก็ตาม ห้ามนำปลาทองไปเลี้ยงไว้ในห้องนอน ในห้องน้ำหรือในครัว ซึ่งจะอันตรายเป็นพิเศษโดยเฉพาะในห้องนอน เพราะจะเป็นต้นเหตุให้ท่านได้รับความเดือดร้อน มีการสูญเสียเกิดขึ้นกับทรัพย์สิน อาจจบลงด้วยการถูกขโมยข้าวของหรือมีการโจรกรรมเกิดขึ้นในบ้านของท่าน ควรเลี้ยงปลาทองไว้ในห้องนั่งเล่นหรือบริเวณนอกบ้านตรงตำแหน่งด้านหน้าของบ้าน
- ปลาหมอสี เชื่อว่าจะส่งผลให้อายุยืน บังเกิดความมั่นคงมั่งคั่งควรเลือกเอาตัวที่แข็งแรงและสีสวยดูเด่นสง่า จัดเป็นปลาที่มีลักษณะหัวโหนกใหญ่ ซึ่งไปคล้ายกับเทพเจ้า ซิ่ว (ฮก ลก ซิ่ว) อันเทพเจ้าของจีน ซิ่ว นั้น จัดเป็นเทพเจ้าอาวุโสที่มีศีรษะล้าน ขนคิ้ว หนวด เครายาวสีขาว มีหน้าผากโหนกนูน มือขวาถือไม้เท้ามังกร มือซ้ายถือลูกท้อ อันเป็นสัญลักษณ์ของการมีอายุมั่นขวัญยืน สุขภาพแข็งแรง อายุยืนนาน นอกจากเรื่องของหัวปลาที่โหนกคล้ายเทพเจ้าซิ่วแล้ว ยังมีในเรื่องของสีสันของปลาที่เป็นสีแดง อันสีแดงในความเชื่อของจีนถือว่าเป็นสีมงคล เป็นสีแห่งความกล้าหาญ รุ่งเรือง มุกของปลาหมอสี จุดสีขาว เขียว หรือฟ้าบนตัวปลา มุกของปลาอันนี้ถ้าเลี้ยงปลาสังเกตเวลาตัวมุกโดนแสงไฟในตู้ปลาจะสะท้อนออกมาระยิบระยับ อันหมายถึงแสงของทรัพย์สมบัติที่จะเข้ามาให้ผู้เลี้ยง มาร์กกิ้ง แถบดำบนตัวปลาหมอสี นับว่าเป็นเรื่องแปลกมหัศจรรย์ที่มาร์กกิ้งของปลานั้นจะมีลักษณะคล้ายอักษรภาษาจีน ซึ่งถ้าผู้อ่านภาษาจีนได้ อาจเห็นเป็นคำแล้วแต่ตัวอักษรว่าแต่ละคนจะอ่านอย่างไร
- ปลามังกรหรือปลาอะโรวาน่า จัดเป็นปลาที่มีลีลาการว่ายน้ำที่งดงามเด่นเป็นสง่าดุจพญามังกรในเทพนิยาย จึงทำให้มันมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าปลามังกร ดังนั้นการเลี้ยงปลาอะโรวาน่าที่มีลักษณะดังเทพมังกรก็จะเป็นการเสริมบารมีและดวงให้แก่ผู้เลี้ยง รวมทั้งป้องกันภัยอันตรายที่จะมาย่ามกายเข้ามาในบ้านอีกด้วย ดังตำราฮวงจุ้ยกล่าวไว้ว่าการเลี้ยงปลาอยู่บริเวณบ้านจะช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้าย ดังมีเทพมังกรคอยปกป้องบ้าน และทำให้ผู้เลี้ยงมีบารมีสูงส่งยิ่งขึ้น เหมาะกับนักธุรกิจหรือข้าราชการที่ต้องการเลื่อนตำแหน่ง การงานก้าวหน้า และเป็นที่น่าเกรงขาม มีบุญมีบารมีเหมาะกับสำนักงานสถานที่ธุรกิจควรใช้สถานที่บริเวนที่มีบริเวนกว้างพอสมควรพลังจะได้กระจายทั่วถึง
- ปลาคาร์พ ชาวจีนเรียกปลาคาร์พว่า หลี่ เนื่องจากคำนี้มีเสียงใกล้เคียงกับคำว่า ลี่ ที่หมายถึงผลกำไรหรือประโยชน์ ปลาคาร์พจึงเป็นสัญลักษณ์ของความปรารถนาจะได้ผลกำไรหรือประโยชน์จากการทำธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีแนวคิดเพิ่มเติมว่าปลาชนิดนี้เป็นปลาที่แข็งแรง และหลากสีพลังแฝงด้วยกำลังที่หลากหลายสามารถกระโดดขึ้นไปทางตอนบนของแม่น้ำเหลือง (ที่ประตูมังกร)ได้ ความพยายามเช่นนี้ถูกนำไปเปรียบเทียบกับความสำเร็จในการสอบเข้ารับราชการ การประสบความสำเร็จดังกล่าวนี้นับว่ายิ่งใหญ่และต้องการการเตรียมตัวที่ยาวนาน ด้วยเหตุนี้ปลาคาร์พจึงเป็นสัญลักษณ์ของความอดทนและมั่นคง ส่วนหนวดปลานั้นเป็นเครื่องหมายของพลังอำนาจเหนือธรรมชาติ และพลังวิเศษ เหมาะกับผู้ที่ค้าขายช่วยให้มีผลกำไรและประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ
ความหมาย
เมื่อเลือกชนิดของปลาที่จะเลี้ยงแล้ว ก็ควรเลือกปลาตัวที่มีลักษณะดีด้วย นั่นคือ ควรดูลักษณะการว่ายของปลา ไม่เลือกปลาที่ว่ายหัวทิ่ม นอกจากนี้ ควรพิจารณาสีสัน และรูปทรงของปลา ให้ดูแล้วสง่างามด้วยและสีสันที่สดใสจะถือว่าเป็นปลาที่แข็งแรงและสมบรูณ์
เมื่อเลือกชนิดของปลาที่จะเลี้ยงแล้ว ก็ควรเลือกปลาตัวที่มีลักษณะดีด้วย นั่นคือ ควรดูลักษณะการว่ายของปลา ไม่เลือกปลาที่ว่ายหัวทิ่ม นอกจากนี้ ควรพิจารณาสีสัน และรูปทรงของปลา ให้ดูแล้วสง่างามด้วยและสีสันที่สดใสจะถือว่าเป็นปลาที่แข็งแรงและสมบรูณ์
5. จำนวนของปลา
คนส่วนใหญ่คิดว่าจำนวนปลาที่เลี้ยงต้องเป็นเลขคี่ จึงเป็นมงคล เช่น 1 3 5 7 9 ถ้าเป็นเลขคู่จะไม่เป็นมงคล เช่น 2 4 6 8 10 คนเหล่านี้เห็นคำว่า “คู่” ซึ่งในภาษาจีนออกเสียงว่า “ซวง” พ้องกับคำว่า “บาดเจ็บ” ซึ่งออกเสียงว่า “ซ้ง” จึงสรุปเอาว่าไม่เป็นมงคล ที่จริงแล้วไม่ควรวินิจฉัยเช่นนั้น เพราะว่าในทางฮวงจุ้ยมีหลักการวิเคราะห์อีกแบบหนึ่ง โดยซินแสจะใช้จำนวนปลาไปเทียบกับแผนภูมิ “ฮ้อโต้และลกจื้อ” ช่วยให้ได้ผลเด่นชัดดังนี้
คนส่วนใหญ่คิดว่าจำนวนปลาที่เลี้ยงต้องเป็นเลขคี่ จึงเป็นมงคล เช่น 1 3 5 7 9 ถ้าเป็นเลขคู่จะไม่เป็นมงคล เช่น 2 4 6 8 10 คนเหล่านี้เห็นคำว่า “คู่” ซึ่งในภาษาจีนออกเสียงว่า “ซวง” พ้องกับคำว่า “บาดเจ็บ” ซึ่งออกเสียงว่า “ซ้ง” จึงสรุปเอาว่าไม่เป็นมงคล ที่จริงแล้วไม่ควรวินิจฉัยเช่นนั้น เพราะว่าในทางฮวงจุ้ยมีหลักการวิเคราะห์อีกแบบหนึ่ง โดยซินแสจะใช้จำนวนปลาไปเทียบกับแผนภูมิ “ฮ้อโต้และลกจื้อ” ช่วยให้ได้ผลเด่นชัดดังนี้
1) ตัว เลข 1 สีดำดาวทัมลั้ง เป็นดาวมงคลนำโชค
2) ตัว เลข 2 สีดำดาวกือมิ้ง เป็นดาวอัปมงคล ทำลายโชคลาภ
3) ตัว เลข 3 สีเขียวเข้มดาวหลกชุ้ง เป็นดาวอัปมงคล ทำลายโชคลาภ
4) ตัว เลข 4 สีเขียวมรกตดาวบุ่งเคี๊ยก เป็นดาวมงคล ดาวปัญญาแล
5) ตัว เลขห้าสีเหลืองดาวเหนี่ยมเจ็ง เป็นดาวป่วยอัปมงคล ทำลายโชคลาภ
6) ตัว เลขหกสีขาวทองดาวบู่เคี๊ยก เป็นดาวขุนนาง ดาวมงคลนำโชค
7) ตัว เลขเจ็ดสีขาวขุ่นดาวพั๊วคุง เป็นดาวอัปมงคล ทำลายโชคลาภ
8) ตัว เลขแปดสีครีมดาวจ้อหู เป็นดาวมงคล ช่วยนำโชคลาภ
9) ตัว เลขเก้าสีแดงดาวอิ้วเพียก เป็นดาวมงคล ช่วยนำโชคลาภ
ส่วน 10 ตัว นั้นนับเป็นห้า… 11 ตัว นับเป็นหนึ่ง… 12 ตัว นับเป็นสอง และเมื่อกล่าวถึงจำนวนปลาเมื่อเทียบกับแผนภูมิลกจื้อ
1 ตัว เป็น ธาตุน้ำ ช่วยเพิ่มพลังของน้ำ น้ำคือปราณนำโชคถือว่าเป็นมงคล
1 ตัว เป็น ธาตุน้ำ ช่วยเพิ่มพลังของน้ำ น้ำคือปราณนำโชคถือว่าเป็นมงคล
2 ตัว เป็น ธาตุไฟ ไฟและน้ำสองพลังคนละขั้ว ไม่ประสานกัน ถือว่าธรรมดา
3 ตัว เป็น ธาตุไม้ ทำให้พลังน้ำอ่อนลง ปราณน้ำถูกถ่ายเถ ถือว่าไม่มีกำลัง
4 ตัว เป็น ธาตุทอง ช่วยเพิ่มพลังน้ำให้มากขึ้น จึงถึงว่าเป็นมงคล
5 ตัว เป็น ธาตุดิน ดินข่มน้ำ น้ำถูกกังขังไม่เป็นมงคล
6 ตัว เป็น ธาตุน้ำ จะเพิ่มพลังน้ำ เป็นพวกเดียวกัน ถือว่าเป็นมงคล
7 ตัว เป็น ธาตุไฟ ถือว่าธรรมดา
8 ตัว เป็น ธาตุไม้ ไม่เป็นมงคล
9 ตัว เป็น ธาตุทอง ทำให้เกิดพลังหนุนน้ำ ถือว่าเป็นมงคล
10 ตัว เป็น ธาตุดิน ดินข่มน้ำไม่เป็นมงคล
อย่างไรก็ดี การวางฮวงจุ้ยในการเลี้ยงปลาจะให้ดี ต้องขึ้นอยู่กับเจ้าบ้านเป็นหลัก โดยควรตรวจฮวงจุ้ยกับซินแสที่มีประสบการณ์อย่างละเอียดทั้งชื่อ เพศ วันเกิด ธาตุ ราศี ตำแหน่งบ้าน ทิศทางของบ้าน อาชีพ ฯลฯ ประกอบกันเพื่อหาตำแหน่งและลักษณะการจัดวางที่ถูกต้อง
ที่มา...อ.ไลลา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น