วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

การจัดและดูแลตู้พรรณไม้น้ำสวยงาม


                              
          พรรณไม้น้ำหรือพืชน้ำ (Aquatic plants) หมายถึง พืชที่อยู่ในน้ำโดยอาจจะจมอยู่ใต้น้ำทั้งหมด หรือโผล่บางส่วนขึ้นมาอยู่เหนือน้ำ หรือเป็นพืชที่ขึ้นอยู่ตามริมน้ำ ชายตลิ่ง นอกจากนี้ก็ยังรวมถึงพืชที่เจริญเติบโตอยู่ในบริเวณที่ลุ่มน้ำขังหรือที่ชื้นแฉะอีกด้วย
          โดยธรรมชาติแล้วพรรณไม้น้ำ นอกจากมีความสวยงามแล้วยังมีประโยชน์อย่างยิ่งกับปลาที่เลี้ยงอยู่ร่วมกัน ตู้ปลาที่มีพรรณไม้น้ำอยู่มากจะทำให้ปลามีสุขภาพดี สีสวย พรรณไม้น้ำเป็นที่เกาะของแบคทีเรียที่ย่อยสลายสารประกอบไนโตเจนที่เป็นพิษกับปลา ทำให้น้ำบริสุทธิ์มากขึ้น เป็นแหล่งอาหาร ที่หลบซ่อนศัตรูและวางไข่ รากพืชที่ชอนไชไปในพื้นกรวดช่วยให้พื้นตู้สะอาดไม่อับ และที่สำคัญพรรณไม้น้ำจะช่วยกำจัดของเสียที่ขับถ่ายออกจากตัวปลา ใช้เป็นปุ๋ยสำหรับการเจริญเติบโต และนำแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเกิดจากการหายใจของปลา ไปใช้ในการสังเคราะห์แสง ดังนั้นการปลูกพรรณไม้น้ำในตู้ปลาจะช่วยลดปริมาณของเสีย และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งปลาไม่ต้องการ ผลจากการสังเคราะห์แสงของพรรณไม้น้ำจะได้แก๊สออกซิเจน  ซึ่งปลานำไปในการหายใจได้ต่อไป จากจุดเริ่มต้นที่ใช้พรรณไม้น้ำประดับตู้ปลาให้ความสวยงามเพิ่มขึ้นพัฒนาไปจนกระทั่งเป็นงานศิลปการจัดสวนใต้น้ำ ซึ่งจัดเป็นงานอดิเรกชนิดใหม่เกิดขึ้น และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก ทั้งยังเชื่อกันว่าพรรณไม้น้ำมีการผลิตยาธรรมชาติที่รักษาและบำรุงสุขภาพของปลาได้อีกด้วย
                                
          พรรณไม้น้ำสามารถแบ่งกลุ่มได้ตามลักษณะของการเกิดใบ ดังนี้ ROSETTE PLANTS เป็นพรรณไม้น้ำกลุ่มที่มีใบแตกออกจากรอบๆ โคนต้น ชนิดที่นิยมและปลูกได้ดีในตู้ได้แก่ สกุล Aponogeton, Anubias, Cryptocoryne, Crinum, Nymphea, Echinodorus, และ Vallisneria เป็นต้น STEM PLANT เป็นพรรณไม้น้ำกลุ่มที่มีใบเกิดตามข้อ ชนิดที่นิยมและปลูกได้ดีในตู้ ได้แก่ สกุล Cabomba, Hygrophila, Alternanthera, Nomaphila, Egeria, Ludwigia, Bacopa, Myriophyllum, Rotala และ Ammannia เป็นต้น
       กลุ่มอื่นๆ เช่น พวกลอยน้ำ ได้แก่ กระจับ จอก แหน กลุ่มของเฟิร์นที่นิยมมากคือ รากดำใบยาว และกลุ่มของมอส ที่นิยมมากคือชวามอส โดยธรรมชาติแล้วพรรณไม้น้ำนอกจากมีความสวยงามแล้วยังมีประโยชน์อย่างยิ่งกับปลาที่เลี้ยงอยู่ร่วมกัน ตู้ปลาที่มีพรรณไม้น้ำอยู่มากจะทำให้ปลามีสุขภาพดี สีสวย พรรณไม้น้ำให้ประโยชน์ในด้านการผลิตออกซิเจนใช้ของเสียของปลา เป็นที่เกาะของแบคทีเรียที่ย่อยสลายสารประกอบไนโตเจนที่เป็นพิษกับปลา ทำให้น้ำบริสุทธิ์มากขึ้น เป็นแหล่งอาหาร ที่หลบซ่อนศัตรูและวางไข่ รากพืชที่ชอนไชไปในพื้นกรวดช่วยให้พื้นตู้สะอาดไม่อับ ทั้งยังเชื่อกันว่าพรรณไม้น้ำมีการผลิตยาธรรมชาติที่รักษาและบำรุงสุขภาพของปลาได้อีกด้วย
          ในด้านเศรษฐกิจ พรรณไม้น้ำเป็นสินค้าส่งออกอย่างหนึ่งของไทยที่มีอนาคตที่สดใส เนื่องจากตลาดต่างประเทศต้องการมากและได้ราคาดี ประเทศไทยมีศักยภาพในการเพาะขยายพันธุ์พรรณไม้น้ำมาก เนื่องจากมีภูมิอากาศและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มีพรรณไม้น้ำท้องถิ่นจำนวนมากและมีการนำเข้าพรรณไม้น้ำต่างประเทศมาเพาะขยายพันธุ์ ส่งกลับไปขายต่างประเทศอีกมากมายหลายชนิด

                           
การจัดตู้พรรณไม้น้ำ
          การจัดตู้พรรณไม้น้ำจำเป็นต้องเข้าใจถึงธรรมชาติและความต้องการของพรรณไม้น้ำเสียก่อน พรรณไม้น้ำหรือบางครั้งที่เราคุ้นเคยเรียกกันว่าสาหร่าย ซึ่งมีสาหร่ายจริงเพียงบางส่วนนั้น มีความต้องการปัจจัยสำคัญ ๆ หลายประการ คือ แสงสว่างที่พอเหมาะและเพียงพอ ซึ่งตู้ปลาทั่วไปจะมีน้อยเกินไป ปุ๋ยและแร่ธาตุอาหารที่จำเป็นที่สม่ำเสมอ ซึ่งตู้ปลาส่วนใหญ่ก็ไม่มีเพราะใช้น้ำประปา ซึ่งถูกกำจัดออกไปเกือบทั้งหมดแล้ว ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สำหรับใช้ในการสังเคราะห์แสง กระแสน้ำที่ช่วยพัดพาแลกเปลี่ยนของเสียบนใบพืชน้ำ ตู้ปลาโดยทั่วไปมักขาดสิ่งที่กล่าวมา ทำให้พรรณไม้น้ำที่ปลูกไว้ค่อย ๆ ตายไป ซึ่งเมื่อเราเตรียมอุปกรณ์ให้ได้ตามความต้องการของพรรณไม้น้ำ แล้วจะพบว่าพรรณไม้น้ำจะอยู่ทนทานมาก ตลอดจนมีการขยายพันธุ์เจริญเติบโตเพิ่มขึ้นอีกด้วย
อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับจัดตู้พรรณไม้น้ำ
          1. ตู้ปลา ตู้ปลาส่วนใหญ่นิยมใช้ตู้กระจก ความลึกไม่ควรลึกเกิน 24 นิ้ว เพื่อความสะดวกในการตกแต่ง และแสงสว่างจะส่องไม่ถึงพื้นตู้ ส่วนรูปทรงและความกว้างยาวขึ้นอยู่กับพื้นที่ตั้งขนาดเหมาะสมส่วนใหญ่จะไม่นิยมตู้ขนาดไม่ใหญ่มากนัก ไม่ควรให้ตู้พรรณไม้น้ำถูกแสงแดดส่องโดยตรง เพราะการควบคุมปริมาณแสงทำได้ยาก และอุณหภูมิของน้ำอาจเปลี่ยนแปลงได้ง่าย และยังป้องกันการเกิดตะไคร่น้ำอีกด้วย
          2ระบบแสงสว่าง แสงสว่างที่พอเหมะโดยประมาณ คือใช้หลอดฟลูออเรสเซนท์ ขนาด 20 วัตต์ต่อน้ำ 40 ลิตร โดยความลึกของน้ำไม่เกิน 18 นิ้ว สีของหลอด ควรเลือกสีที่ใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติเพราะหากเลือกแสงสีแดงหรือแสงช่วงคลื่นยาว พืชจะสังเคราะห์แสงได้ดีที่สุด ทำให้พืชโตในทางยืดตัว แสงสีน้ำเงินหรือช่วงคลื่นสั้น พืชจะเป็นพุ่มไม่ยืดตัว ดังนั้นจึงควรผสมสีหลอดเพื่อ
ไม่ให้พืชยืดตัวเร็วเกินไปหรือโตช้าเกินไป 
          3. น้ำและระบบกรองน้ำ พรรณไม้น้ำต้องการน้ำที่มีความสะอาด ความกระด้างน้อย ปกติน้ำประปาที่พักไว้ 2-3 วัน สามารถนำมาใช้ได้ดี อุณหภูมิของน้ำควรให้มีอุณหภูมิที่ค่อนข้างเย็นจะได้ผลดีกว่า อุณหภูมิที่พอเหมาะคือ 26-27 ํC กระแสน้ำมีความสำคัญต่อพรรณไม้น้ำมาก กระแสน้ำจะช่วยพัดพาของเสียหรือสิ่งสกปรกบนใบไม้ให้หลุดออกไป และพัดพาเอาน้ำสะอาดที่มีปุ๋ยและก๊าซที่จำเป็นสำหรับพืชมาให้กับพรรณไม้น้ำ ในตู้พรรณไม้น้ำจึงควรมีเครื่องปั๊มน้ำขนาดเล็กเพื่อทำกระแสน้ำในตู้ ระบบกรองน้ำที่เหมาะสมคือระบบปั๊มกรองมุมตู้ (CORNER FILTER) ซึ่งใช้ติดตั้งภายในตู้ มีฟองน้ำเป็นวัสดุกรองและมีปั๊มน้ำเป็นตัวปั๊มให้น้ำผ่านวัสดุกรองพร้อมเป่าออกมาให้เกิดกระแสน้ำในตัว ซึ่งเมื่อฟองน้ำสกปรกก็สามารถถอดมาทำความสะอาดได้ง่าย          4. วัสดุที่ใช้ปลูกพรรณไม้น้ำ โดยทั่วไปจะใช้กรวดแม่น้ำหรือกรวดควอท์ขนาดเล็กประมาณ 2-3 มม.ปูพื้นตู้ปลาให้หนาประมาณ 2-3 นิ้ว ไม่ควรใช้กรวดปะการัง เนื่องจากจะทำให้น้ำมีความกระด้างมาก ใต้ชั้นกรวดอาจใช้ปุ๋ยพรรณไม้น้ำสำเร็จรูปซึ่งมีแร่ธาตุ
หลายชนิด โดยเฉพาะมีธาตุเหล็กที่ช่วยให้พืชน้ำแข็งมีใบสีเข้มสวย และอาจมีฮอร์โมนเร่งรากผสมอยู่ ช่วงให้พรรณไม้น้ำฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
          5. การให้ปุ๋ยและ CO2 เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พรรณไม้น้ำอยู่ได้ดีและเจริญเติบโตเป็นปกติในน้ำประปาที่เรานิยมนำมาใช้ใส่ตู้และขาดแร่ธาตุที่จำเป็นต่อพืชน้ำหลายชนิด ธาตุอาหารที่พืชน้ำต้องการ ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โปแตสเซียม เหล็ก แมงกานีส และอื่นๆ ส่วนใหญ่เราจะไม่ใส่ฟอสฟอรัสมากเกินไป เนื่องจากจะทำให้เกิดตะไคร่ได้ง่าย โปแตสเซียมจะเป็นธาตุที่ขาดแคลนในตู้พรรณไม้น้ำ ในขณะที่ไนโตรเจนได้จากสิ่งขับถ่ายของปลา เหล็กและแมงกานีสจะไม่มีหรือมีก็ได้ แต่ตกตะกอนได้ง่ายเมื่อถูกกับออกซิเจน ปุ๋ยทั่วไปที่ใช้ในฟาร์มพรรณไม้น้ำในเมืองไทย คือ สูตร 27:17:10 หรือ 30:20:10 ในขนาดความเข้มข้น 0.25 ppm. ส่วนในพัน ส่วนสิ่งที่พึงระวังในการใช้ปุ๋ยคือ การผสมเป็นสารละลาย เพื่อให้สะดวกในการใช้ อาจเกิดแก๊ซขึ้นในขวดเมื่อเก็บไว้นาน ดังนั้นปุ๋ยที่ดีจึงควร
เป็นปุ๋ยที่ทำเป็นสารละลายแล้วอยู่ตัวได้นาน ไม่เสื่อมสภาพง่าย ในชั้นกรวดที่พื้นตู้เราอาจใส่ปุ๋ยเม็ดสำเร็จรูปที่มีจำหน่ายตามร้านขายพรรณไม้น้ำ ก็จะช่วยให้พรรณไม้น้ำเจริญเติบโตได้ดีขึ้น
          การให้ CO2 พรรณไม้น้ำที่ได้รับ CO2 จะเจริญเติบโตดีมาก มีใบกว้างและสมบูรณ์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปกติตู้ปลาที่ใส่ปลาอาจมี CO2 จากการหายใจของปลาและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ บ้าง แต่ไม่เพียงพอจึงต้องให้ CO2 เสริม ซึ่ง COนอกจากจะเป็นประโยชน์กับพรรณไม้น้ำที่เกี่ยวกับการสังเคราะห์แสงแล้ว ยังช่วงรักษา pH และความกระด้างของน้ำให้พอเหมาะสำหรั[การเลี้ยงปลาด้วย ปริมาณการให้ก๊าซ   CO2 ขึ้นอยู่กับความกระด้างและ pH ของน้ำ หากค่า pH ของน้ำต่ำกว่า 7 ก็ไม่ควรให้ก๊าซ COปริมาณที่พอเหมาะสำหรับการให้ก๊าซ CO2 คือ 5-15 มิลลิกรัมต่อลิตร และไม่ควรเกิน 20 มิลลิกรัมต่อลิตร การให้ CO2 มากเกินไปจะก่อให้เกิดผลเสียกับปลาคุณภาพของน้ำ ไม่ควรให้ก๊าซ CO2 ในเวลากลางคืนหรือเมื่อปิดไฟในตู้ เนื่องจากพรรณไม้น้ำไม่ได้ทำการสังเคราะห์แสง เครื่องให้ก๊าซ CO2 ที่ทันสมัยจะมีการควบคุมปริมาณ CO2 ในน้ำไม่ให้สูงเกินไปแบบอัตโนมัติ อย่างไรก็ดี หากสามารถตรวจสอบปริมาณก๊าซ CO2 ในน้ำไม่ให้สูงเกิน 20 มิลลิกรัมต่อลิตร จะแน่นอนที่สุด วิธีการให้ก๊าซ CO2 มีหลายวิธี อาจใช้ถังก๊าซ CO2 เปิดสายต่อผ่านหัวฟู่ลงในน้ำ ส่วนใหญ่จะมีเครื่องควบคุมปริมาณที่พอเหมาะแบบอัตโนมัติ หรือใช้ชุดผลิตก๊าซ CO2 สำเร็จรูป (CO2 kit) สำหรับพรรณไม้น้ำที่มีจำหน่ายตามร้านขายพรรณไม้น้ำใหญ่ ๆ ก็ได้

          
การดูแลรักษาตู้พรรณไม้น้ำ
          การดูแลโดยทั่วไป ได้แก่ การตัดหรือเก็บใบเหลือง ใบเน่าออก พร้อมกับการทำความสะอาดทั่วไป เช่น ตะไคร่บนกระจก หรือ
ทำความสะอาดเครื่องกรองน้ำ ควรทำการเปลี่ยนน้ำประมาณ 20-30 % เดือนละ 1 ครั้ง เพื่อให้น้ำบริสุทธิ์มากขึ้น ควรเช็คสภาพของหลอดไฟที่ใช้ หลอดฟลูออเรสเซนที่ใช้ครบ 6 เดือนควรเปลี่ยนใหม่ ตู้ที่มีตะไคร่อาจใส่ปลากินตะไคร่น้ำ เช่น ปลามิดไนท์ ปลาน้ำผึ้ง เป็นต้น ปลาจะช่วยกินตะไคร่น้ำเล็ก ๆ และช่วยทำความสะอาดใบไปด้วย และควรเลือกปลาที่ไม่กินพรรณไม้น้ำ ควรเช็คคุณภาพของน้ำอย่างสม่ำเสมอ ระมัดระวังอย่าให้อุณหภูมิสูงหรือต่ำจนเกินไป หากมีปลาป่วยไม่ควรใส่สารเคมีรักษาโรคปลาลงในตู้ ควรแยกออกมารักษา ควรใส่ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอเพื่อความสมบูรณ์ของพรรณไม้น้ำ
    
การเลือกปลาที่ใส่ในตู้พรรณไม้น้ำ

          ส่วนใหญ่ปลาที่ใส่จึงนิยมปลาขนาดเล็กเป็นฝูง จะแลดูสวยงาม ปลาที่นิยมใส่ส่วนมากจะเป็นปลานีออน ปลาซิวขนาดเล็ก เช่น ปลาซิวขวาน ซิวหางแดง เป็นต้น รวมทั้งนิยมใส่ปลาที่ช่วยกินตะไคร่และทำความสะอาดใบ พวดปลามิดไนท์ ปลาเล็บมือนาง ปลาน้ำผึ้ง
การใส่ปลาควรรอให้น้ำในตู้พรรณไม้น้ำที่ปลูกเสร็จแล้วใสดีเสียก่อน ปลาจะไม่เกิดความเครียดและปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ได้ง่าย ปลาหลายชนิดกินพรรณไม้น้ำเป็นอาหาร เช่น ปลาทอง ปลาตะเพียน เป็นต้น จึงไม่ควรใส่ลงไป ส่วนปลาชนิดอื่นที่โตเร็วและเมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดใหญ่ก็ไม่ควรใส่ลงไป เพราะจะเป็นปัญหาในการจับออกและอาจรื้อพรรณไม้น้ำในตู้ได้ ในตู้พรรณไม้น้ำอาจไม่ใส่ปลาก็ได้ยังคงมีความสวยงามอยู่ และจะสะดวกที่ไม่ต้องให้อาหารปลาทุกวันอีกด้วย


ที่มา...http://www.vcharkarn.com/varticle/39064

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น